การมีสมองปลอดโปร่งแจ่มใส ไอเดียโลดแล่น และมีความจำเป็นเลิศอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็อยากได้ แต่บ่อยครั้งเวลาที่เราเครียดๆ นอนน้อย หรือใช้ความคิดมากเกินไป ก็อาจเกิดอาการที่เรียกว่า “สมองล้า” หรือ “สมองไม่แล่น” ได้เหมือนกัน รวมถึงในชาวสูงวัยที่ร่างกายเริ่มเสื่อมโทรม ก็มักเกิดอาการหลงๆ ลืมๆ ความจำและความคิดความอ่านไม่เฉียบคมเท่าตอนสมัยหนุ่มสาว ยิ่งถ้าสมองไม่ได้รับการบำรุงอย่างถูกวิธี คนสูงอายุหลายคนก็อาจถึงขั้นป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ได้เลยทีเดียว
ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่า มีสมุนไพรหลายชนิดที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงสมองและชะลอความเสื่อมของระบบประสาทได้ ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและเหมาะกับทั้งผู้สูงอายุและคนหนุ่มสาว เรามาดูกันว่าสมุนไพรบำรุงสมองเหล่านี้มีอะไรบ้าง
ใบแปะก๊วย (Gingko) หรือ หยินซิ่งเย่ เป็นสุดยอดสมุนไพรที่เลื่องชื่อด้านการบำรุงสมองและระบบประสาท เนื่องจากสารหลายชนิดในใบแปะก๊วยจะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดี แถมยังมีสารกลุ่ม flavonoids และ terpenoids ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เซลล์สมองเสื่อมสภาพหรือถูกทำลาย การรับประทานใบแปะก๊วยจึงช่วยเพิ่มสมรรถภาพสมองทั้งในเรื่องความคิด ความจำ สมาธิ และช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้นได้
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากใบแปะก๊วยนั้นช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล ในคนวัยเรียนและวัยทำงาน ทั้งยังช่วยบำรุงสายตาและบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ดีอีกด้วย
บัวบก มีสรรพคุณขึ้นชื่อเรื่องการช่วยขับพิษร้อน แก้ช้ำใน แก้อักเสบ เนื่องจากใบบัวบกนั้นมีฤทธิ์เย็นและอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งช่วยลดการอักเสบและป้องกันความเสียหายของเซลล์สมองได้ การทานสารสกัดจากใบบัวบกเป็นประจำจึงช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม ช่วยให้การรับส่งข้อมูลภายในสมองยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้อายุจะเพิ่มขึ้น ช่วยกระตุ้นความคิด เสริมความจำ จึงเหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องใช้งานสมองอย่างหนักในทุกๆ วัน
เติงจ้างซี่ซิน คือ Erigerontis Herba เป็นสมุนไพรใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นยาจีนโบราณและมักใช้สำหรับป้องกันระบบประสาทและป้องกันหลอดเลือด
พืชผักประจำบ้านของคนไทยอย่างกระเทียม ก็เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ช่วยบำรุงสมองได้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากในกระเทียมอุดมด้วยสารหลายชนิด เช่น S-allylcysteine (SAC) ที่ช่วยปกป้องสมองและเซลล์ประสาทของเราจากการอักเสบและเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บของเซลล์สมองได้โดยตรง ทำให้สุขภาพโดยรวมของสมองเราดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ สารสกัดจากกระเทียมยังมีสรรพคุณช่วยยับยั้งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียด อย่างฮอร์โมนคอร์ติซอล ส่งผลให้เรารู้สึกสมองโล่ง ปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย และพร้อมที่จะโฟกัสกับงาน ออกไอเดียเจ๋งๆ หรือทำภารกิจที่ต้องใช้ความคิดได้ดียิ่งขึ้น
หญ้าหวาน หรือ Stevia เป็นสมุนไพรรสออกหวานสมชื่อ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ความหวานแทนน้ำตาลและช่วยป้องกันสารพัดโรคร้ายได้แล้ว ยังมีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงสมองได้อย่างเยี่ยมยอดอีกด้วย
สารสกัดจากหญ้าหวานนั้นประกอบด้วย stevioside, Rebaudioside, Steviol และสารอื่นๆ อีกหลายชนิด ที่ช่วยควบคุมความดัน บำรุงโลหิต และกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ทำให้เซลล์สมองของเราได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ และสามารถคิดวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซานชี หรือ เถียนชี เป็นสมุนไพรจีนในตระกูลโสมที่มีสรรพคุณมากมายต่อสุขภาพ ในสารสกัดจากซานชีมีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “ซาโปนิน (Saponin) ” ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ บรรเทาอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ อีกทั้งช่วยให้เลือดไหลเวียนดี และแน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อระบบประสาทและสมองของเราด้วย
การทานสารสกัดจากซานชี จะช่วยลดอาการบวมอักเสบของสมอง ลดการตายของเซลล์ประสาท ป้องกันเซลล์สมองไม่ให้ถูกทำลาย และลดการคั่งของน้ำภายในสมอง จึงเหมาะอย่างยิ่งกับคนอายุมากที่สมองเริ่มเสื่อมโทรมไปตามวัย แล้วต้องการฟื้นฟูให้ความคิด ความจำ กลับมาดีได้ดังเดิม
หม่านชางเซียนเป็นสมุนไพรจีนตามตำราแพทย์แผนโบราณอีกชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงโลหิต บำรุงการไหลเวียนเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง โดยการป้องกันไม่ให้เกิดหลอดเลือดแข็งตัว อีกทั้งสรรพคุณข้อนี้ยังส่งผลดีต่อสมองโดยตรง เนื่องจากช่วยให้เซลล์สมองมีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ ช่วยให้ระบบประสาทได้รับการฟื้นฟูจากความเสื่อมสภาพ และทำให้ทักษะความคิด ความจำ และการรับรู้ของเราทำงานได้ดีขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม หากเรารับประทานสารสกัดสมุนไพรเหล่านี้มากเกินไป โดยไม่ใส่ใจคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่ดีต่อร่างกายเราได้เช่นกัน นอกจากนี้ อีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เรามีสมองที่ปลอดโปร่ง แจ่มใส และใช้งานได้อย่างใจต้องการ นอกเหนือจากการทานสมุนไพรบำรุงสมองแล้ว ก็คือการพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ หลีกเลี่ยงความเครียด รวมถึงหมั่นใช้ความคิดและฝึกลับคมสมองอย่างสม่ำเสมอด้วย
 |  |
